ก่อนอ่านติดตามความเดิมสองตอนที่แล้วก่อนนะคะจิ้มที่นี่เลยเพราะบทนี้เราจะเริ่มความน่ารักประการที่ 5 ของไกด์ผู้น่ารัก
ใครที่เคยไปคงพอรู้ว่าหมู่บ้านนินจาแห่งนี้มีทางเดินแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกขึ้นเนินเตี้ยๆ(ทางไม่ค่อยเด่น) ไปยังพิพิธภัณฑ์และส่วนแสดงโชว์นินจา และทางเดินยิ่งใหญ่อลังการขึ้นเขาสูงชัน(สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยผู้บอบบางต่อแหล่งท่องเที่ยวใดๆ ยกเว้นแหล่งShopping)
ตามโปรแกรมทัวร์นั้นทัวร์ของข้าพเจ้าควรจะไปชมโชว์นินจาสวยๆ ก่อนเดินเล่นในหมู่บ้านนินจา(รวมถึงทางขึ้นเขาสูงนั่นด้วยเพื่อชมสวนซากุระ อย่างไรก็ดีด้วยความน่ารักของไกด์ผู้น่ารักของเราทำให้แผนการไม่เป็นอย่างนั้น
5. ทันทีี่รถทัวร์จอด ณ ที่จอดรถ ไกด์ผู้น่ารักของที่ยังมิได้อธิบายแม้แต่น้อยว่าทางเดินในหมู่บ้านนินจาแห่งนี้แยกอย่างไร ไปทางไหน ก็แสดงวิชานินจาให้ลูกทัวร์ดูสมกับการเป็นหมู่บ้านนินจาในทันที ด้วยการหายตัวไปโดยพร้อมเพรียงกันทั้ง 3 คน
ลูกทัวร์ผู้งุนงงทั้งหลายจึงได้แต่เดินกันเองตามบุญตามกรรม ถ่ายรูปบ้างะไรบ้างไปเรื่อย และแล้วเราก็มาถึงทางแยกที่ต้องเลือกว่าจะเดินไปข้างไหน
ระหว่างทางเล็กๆ กับ ทางยิ่งใหญ่อลังการ แน่นอนว่าลูกทัวร์แทบทุกคนทั้งเด็กทั้งแก่ก็พากันลัดเลาะขึ้นเขาไปพบกับปราสาทหลังงามท่ามกลางหมู่ต้นซากุระที่กำลังเบ่งบานประหนึ่งเป็นของขวัญจากการปีนป่ายอันเหน็ดเหนื่อย
ลูกทัวร์ทั้งหลายที่อุตส่าห์กระเสือกกระสนขึ้นเขามาจึงต้องรีบล่าถอยลงจากเขา บอกลาภาพที่สวยงามเบื้องหน้า พร้อมทั้งพึมพำกับตัวเองว่า ใครปีนขึ้นมาอีกรอบก็....เกินไปแล้ว หลังดูโชว์เสร็จเหลือเวลาอีก 10 กว่านาทีเนี่ยนะ ไต่มาถึงตีนเขาก็เป็นลมแล้วมั้ง
สุดท้ายทุกคนเลยได้ชมทิวทัศน์อันงดงามเป็นเวลานาน 5 นาทีเศษ และทำใจไปดูโชว์นินจาต่อ ซึ่งระหว่างโชว์นินจานี้ จะไม่เหมือนโชว์ของฮอกไกโด ที่ฮอกไกโดโชว์นินจาจะมีลักษณะเป็นเรื่องราว แต่ของที่นี่ จะเป็นลักษณะนินจาออกมาอธิบายวิธีการใช้อาวุธต่างๆ ก่อนแสดงตัวอย่างให้ดู อันนำมาซึ่งความน่ารักลำดับที่ 6 จากไกด์ของเรา
6. ระหว่างที่โชว์นินจาดำเนินไป เหล่านินจาผู้เริงร่าท่ามกลางกองอาวุธก็อธิบายการใช้อาวุธอย่างเมามันส์ ท่ามกลางเสียงฮือฮาระหว่างการสาธิตจากเหล่าทัวร์ไทยที่กำลังชมอยู่ แต่......................ระหว่างการอธิบายด้วยน้ำเสียงประหนึ่งเดี่ยวไมโครโฟนนั้น กลับเงียบสนิท แน่นอน พวกเรามีไม่ถึง 2 คนที่ฟังภาษาญี่ปุ่นออก (ที่บอกมีไม่ถึง 2 คนเพราะมีป้าคนหนึ่งฟังออก และ มีข้าพเจ้าที่มีเศษเสี้ยวภาษาญี่ปุ่นเล็กๆที่แทบไม่อาจเรียกได้ว่ารู้อยู่ในหัว) ทั้งหมดที่ผ่านมา.............ไร้คำแปลจากไกด์!!!
ความรู้สึกของลูกทัวร์คงอารมณ์เหมือนยกฝรั่งมาสัก 1 คันรถเข้าไปไว้ในรอบแสดงสดของเดี่ยวไมโครโฟน แสดงดีให้ตายมันก็ไม่ฮา.........ก็ตูฟังไม่ออก โว้ยยยยยยยยย ทำไมไม่แปล!!! น่ารักมากกกกกกกกก
หลังจากโดนเขม่นอยู่เกือบ 3/4 ของโชว์คุณไกด์1 ก็เหมือนจะเพิ่งระลึกได้ว่าตนเองไม่ได้มีหน้าที่มาฟังเฮฮาแต่เพียงผู้เดียว แต่มีหน้าที่แปล จึงเริ่มแปล (อย่างไม่เชี่ยวและไม่ต่อเนื่องอย่างแรง) ทำให้การแสดงนั้นลุล่วงไปด้วยดี (??)
พูดถึงแต่ ไกด์1 เพราะนางเป็นคนที่ทำอะไรมากที่สุดเลยมีวีรกรรมความน่ารักมากที่สุดในขณะที่ ไกด์ 2 และ ไกด์ 3 น่ะหรือ
7. ไกด์ 2 และ ไกด์ 3 นางเป็นไกด์หญิงที่แต่งตัวจัดเต็มตามสไตล์ของตนเองตลอดทริป ในมือถือกล้องถ่ายรูปคนละตัว ผลัดกันSelfie ผลัดกันถ่ายให้กันบ้างอย่างสนุกสนาน เมื่อถึงแหล่งShoppingทั้งหลาย นางทั้งสองจะหายไปอย่างรวดเร็วและกลับมาแทบจะคนสุดท้ายพร้อมถุงขนาดมหึมาเสมอ เมื่อถามข้อมูลใดๆ (เช่นตารางของวันถัดไป หรือนัดหมายกันตอนนี้) นางก็จะไม่รู้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ได้แต่ตอบว่า เดี๋ยวถาม ไกด์ 1 ให้นะคะ
จนข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจว่า นี่ข้าพเจ้ามีไกด์ถึง 3 คน หรือจริงๆ มีลูกทัวร์พิเศษเพิ่มมาอีก 2 คนกันแน่.........
อย่าเพิ่งคิดว่าความน่ารักของไกด์ทั้งหลายจะจบลงแต่เพียงเท่านี้.......ซีรี่ส์นี้ยังไม่จบง่ายๆ แล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไป
ตามโปรแกรมทัวร์นั้นทัวร์ของข้าพเจ้าควรจะไปชมโชว์นินจาสวยๆ ก่อนเดินเล่นในหมู่บ้านนินจา(รวมถึงทางขึ้นเขาสูงนั่นด้วยเพื่อชมสวนซากุระ อย่างไรก็ดีด้วยความน่ารักของไกด์ผู้น่ารักของเราทำให้แผนการไม่เป็นอย่างนั้น
5. ทันทีี่รถทัวร์จอด ณ ที่จอดรถ ไกด์ผู้น่ารักของที่ยังมิได้อธิบายแม้แต่น้อยว่าทางเดินในหมู่บ้านนินจาแห่งนี้แยกอย่างไร ไปทางไหน ก็แสดงวิชานินจาให้ลูกทัวร์ดูสมกับการเป็นหมู่บ้านนินจาในทันที ด้วยการหายตัวไปโดยพร้อมเพรียงกันทั้ง 3 คน
ลูกทัวร์ผู้งุนงงทั้งหลายจึงได้แต่เดินกันเองตามบุญตามกรรม ถ่ายรูปบ้างะไรบ้างไปเรื่อย และแล้วเราก็มาถึงทางแยกที่ต้องเลือกว่าจะเดินไปข้างไหน
ระหว่างทางเล็กๆ กับ ทางยิ่งใหญ่อลังการ แน่นอนว่าลูกทัวร์แทบทุกคนทั้งเด็กทั้งแก่ก็พากันลัดเลาะขึ้นเขาไปพบกับปราสาทหลังงามท่ามกลางหมู่ต้นซากุระที่กำลังเบ่งบานประหนึ่งเป็นของขวัญจากการปีนป่ายอันเหน็ดเหนื่อย
คนทั้งหลายที่มาจากประเทศเขตร้อนจึงเริ่มชักภาพกับดอกซากุระกันอย่างบ้าคลั่งได้เพียง.... 5 นาทีเศษ ไกด์ผู้น่ารักหมายเลข 2 จึงคลายมนต์แฝงตัวแล้ววิ่งกระหืดกระหอบตามมา....พร้อมบอกว่า ท่านทั้งหลาย ท่านมาผิดทาง!!! เชิญไต่ลงเขากลับไปโดยด่วนเดี๋ยวค่อยมาถ่ายรูปโชว์จะเริ่มแล้ววววว
ลูกทัวร์ทั้งหลายที่อุตส่าห์กระเสือกกระสนขึ้นเขามาจึงต้องรีบล่าถอยลงจากเขา บอกลาภาพที่สวยงามเบื้องหน้า พร้อมทั้งพึมพำกับตัวเองว่า ใครปีนขึ้นมาอีกรอบก็....เกินไปแล้ว หลังดูโชว์เสร็จเหลือเวลาอีก 10 กว่านาทีเนี่ยนะ ไต่มาถึงตีนเขาก็เป็นลมแล้วมั้ง
สุดท้ายทุกคนเลยได้ชมทิวทัศน์อันงดงามเป็นเวลานาน 5 นาทีเศษ และทำใจไปดูโชว์นินจาต่อ ซึ่งระหว่างโชว์นินจานี้ จะไม่เหมือนโชว์ของฮอกไกโด ที่ฮอกไกโดโชว์นินจาจะมีลักษณะเป็นเรื่องราว แต่ของที่นี่ จะเป็นลักษณะนินจาออกมาอธิบายวิธีการใช้อาวุธต่างๆ ก่อนแสดงตัวอย่างให้ดู อันนำมาซึ่งความน่ารักลำดับที่ 6 จากไกด์ของเรา
6. ระหว่างที่โชว์นินจาดำเนินไป เหล่านินจาผู้เริงร่าท่ามกลางกองอาวุธก็อธิบายการใช้อาวุธอย่างเมามันส์ ท่ามกลางเสียงฮือฮาระหว่างการสาธิตจากเหล่าทัวร์ไทยที่กำลังชมอยู่ แต่......................ระหว่างการอธิบายด้วยน้ำเสียงประหนึ่งเดี่ยวไมโครโฟนนั้น กลับเงียบสนิท แน่นอน พวกเรามีไม่ถึง 2 คนที่ฟังภาษาญี่ปุ่นออก (ที่บอกมีไม่ถึง 2 คนเพราะมีป้าคนหนึ่งฟังออก และ มีข้าพเจ้าที่มีเศษเสี้ยวภาษาญี่ปุ่นเล็กๆที่แทบไม่อาจเรียกได้ว่ารู้อยู่ในหัว) ทั้งหมดที่ผ่านมา.............ไร้คำแปลจากไกด์!!!
ความรู้สึกของลูกทัวร์คงอารมณ์เหมือนยกฝรั่งมาสัก 1 คันรถเข้าไปไว้ในรอบแสดงสดของเดี่ยวไมโครโฟน แสดงดีให้ตายมันก็ไม่ฮา.........ก็ตูฟังไม่ออก โว้ยยยยยยยยย ทำไมไม่แปล!!! น่ารักมากกกกกกกกก
หลังจากโดนเขม่นอยู่เกือบ 3/4 ของโชว์คุณไกด์1 ก็เหมือนจะเพิ่งระลึกได้ว่าตนเองไม่ได้มีหน้าที่มาฟังเฮฮาแต่เพียงผู้เดียว แต่มีหน้าที่แปล จึงเริ่มแปล (อย่างไม่เชี่ยวและไม่ต่อเนื่องอย่างแรง) ทำให้การแสดงนั้นลุล่วงไปด้วยดี (??)
พูดถึงแต่ ไกด์1 เพราะนางเป็นคนที่ทำอะไรมากที่สุดเลยมีวีรกรรมความน่ารักมากที่สุดในขณะที่ ไกด์ 2 และ ไกด์ 3 น่ะหรือ
7. ไกด์ 2 และ ไกด์ 3 นางเป็นไกด์หญิงที่แต่งตัวจัดเต็มตามสไตล์ของตนเองตลอดทริป ในมือถือกล้องถ่ายรูปคนละตัว ผลัดกันSelfie ผลัดกันถ่ายให้กันบ้างอย่างสนุกสนาน เมื่อถึงแหล่งShoppingทั้งหลาย นางทั้งสองจะหายไปอย่างรวดเร็วและกลับมาแทบจะคนสุดท้ายพร้อมถุงขนาดมหึมาเสมอ เมื่อถามข้อมูลใดๆ (เช่นตารางของวันถัดไป หรือนัดหมายกันตอนนี้) นางก็จะไม่รู้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ได้แต่ตอบว่า เดี๋ยวถาม ไกด์ 1 ให้นะคะ
จนข้าพเจ้ารู้สึกประหลาดใจว่า นี่ข้าพเจ้ามีไกด์ถึง 3 คน หรือจริงๆ มีลูกทัวร์พิเศษเพิ่มมาอีก 2 คนกันแน่.........
อย่าเพิ่งคิดว่าความน่ารักของไกด์ทั้งหลายจะจบลงแต่เพียงเท่านี้.......ซีรี่ส์นี้ยังไม่จบง่ายๆ แล้วพบกันใหม่ในตอนต่อไป