วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557

การเข้าร่วมดราม่าอย่าง(เกือบ)เต็มตัวของข้าพเจ้า


หลายท่านอาจจะทราบแล้วว่าข้าพเจ้ามีชื่อเข้าไปโผล่อยู่ใน ดราม่ายิ่งใหญ่แห่งรอบปีในอินเตอร์เน็ต ดราม่าวงโยฯ

สำหรับคนที่ไม่ได้อ่าน

ปกติข้าพเจ้าเป็นคนที่มักไม่ยุ่งเกี่ยวกับดราม่า ไม่เสพ ไม่อ่าน ไม่ตอบโต้ เพราะหลังจากเคยเข้าร่วมดราม่าเล็กๆ ครั้งหนึ่งด้วยความจริงใจ อยากเสนอแนวทางแก้ปัญหา ข้าพเจ้าก็พบสเตตัสส่วนของของผู้ที่เถียงกับข้าพเจ้าหน้าดำหน้าแดง แอบเขียนไว้ในที่ส่วนตัวว่าจริงๆข้าพเจ้าพูดไม่ผิดหรอก แต่เถียงด้วยแล้วสนุกดี ก่อดราม่าเล่นดีกว่า ข้าพเจ้าผู้ตั้งใจนำเสนอข้อมูลจริงๆถึงกับเงิบแล้วก็บรรลุสัจธรรมว่าด้วยการ "อย่าเอาทองไปรู่กระเบื้อง" (ความหมาย) อย่างชัดเจน


หลังจากห่างหายจากการแสดงความคิดเห็นมานาน ข้าพเจ้าก็พบกับสเตตัสหนึ่งโพสโดยรุ่นพี่วงโยฯที่เคารพผู้หนึ่งเพื่อตามหาคนที่มีทางช่วยเหลือน้องๆกลุ่มนึง ข้าพเจ้าก็ได้แต่เอาใจช่วยและปล่อยผ่านไป ไม่กี่วันหลังจากนั้น ข้าพเจ้าพบโพสเกี่ยวกับน้องกลุ่มเดียวกันกระจัดกระจายทั่วอินเตอร์เน็ต ว่าถึงทางตันขนาดต้องไปนั่งรอคุณตัน ด้วยความที่นานมาแล้วข้าพเจ้าเคยวิ่งหาสปอนเซอร์ให้วงโยฯจนหัวหมุนเช่นกัน (อ่านจากล่างขึ้นบนนะจ๊ะ)




ข้าพเจ้าจึงลองช่วยเหลือดู (ไม่ขออธิบายถึงวิธีการ) จากการช่วยเหลือนั้นทำให้ข้าพเจ้าได้ครุ่นคิดอะไรมากมาย กระทั่งสรุปออกมาได้เป็นข้อย่อยๆ ที่ข้าพเจ้าไม่เห็นด้วยหลายประการ (ซึ่งช่างมันเถอะ) แต่ก็พยายามช่วยอยู่ 

ระหว่างนั้น ข้าพเจ้า กลับโดนหลายต่อหลายคนต่อว่าอย่างดุเดือด(อาจถึงขั้นด่าทอ) [ภายหลังหนึ่งในนั้นได้มาขอโทษแล้ว ส่วนคนอื่นที่หายจ้อยก็ อโหสิกรรมละกันนะหนู] ทำให้เกิดกระแสสังคมตีกลับแบบรุนแรงมาก เพราะการใช้คำหยาบ (เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหลายคนที่ทำให้เกิดดราม่าครั้งนี้ก็ได้มั้ง )

หลังจากเรื่องลุกลามบานปลายผ่านไปหลายวัน โดยที่ข้าพเจ้าแทบไม่พูดอะไรอีกเลย เพราะไม่อยากให้เรื่องใหญ่โต (แต่สุดท้ายมันก็ใหญ่) เลยอยากขอพูดอะไรไว้ ณ ที่นี้เป็นข้อสั้นๆหลายๆข้อ ดังนี้

1. เมื่อแรกเริ่มวิจารณ์ข้าพเจ้าไม่มีความคิดสักเล็กน้อยว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องใหญ่ข้าพเจ้าคิดว่ามันจะจบลงอย่างรวดเร็ว ทั้งยังแน่ใจว่าสุดท้ายน้องๆจะได้ไปแข่ง

2. แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเริ่มมาจากคำหยาบคายที่น้องๆด่าทอ อย่างไรก็ตาม เรื่องนั้นจบไปแล้ว และพ้นมือข้าพเจ้าไปแล้ว หากเป็นไปได้ข้าพเจ้าอยากขอว่า อยากให้เรื่องตอนนี้เป็นเรื่องขุดค้นมากกว่าว่าใครทุจริต มากกว่าการด่าเหมารวมไปโดนน้องๆอีกหลายๆคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย

3. ดราม่าครั้งนี้ทำให้เห็นว่า เราแบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันมากขึ้น โดยไม่สนใจความเป็นปัจเจกบุคคลเลย หลายคนที่ให้ข้อเสนอแนะ ถูกด่าเหมารวมไปกับคนที่เข้ามาซ้ำเติมด้วยความสะใจ หลายคนที่ปกป้องสถาบันด้วยความสุภาพ กลับถูกเหมารวมไปกับหลายคนที่หยาบคาย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากขอว่าคราวหน้ามีอะไรเกิดขึ้นพูดกันเป็นกรณีๆเถอะ อย่าเหมารวมกันเลย 

แต่ถ้าขอไม่ได้ก็คงต้องขอว่าก่อนพูดคงต้องระลึกสักนิดว่าเราแบกศักดิ์ศรีอะไรอยู่ และผลที่ตามมาในอินเตอร์เน็ตมันเอากลับมายาก

รูปไม่เกี่ยว คั่นสายตาเฉยๆ วาดเองเชียวนะ
(แล้วทุกคนก็ถามว่าแล้วฝีมือในเพจนั่นคืออะไรเอาอะไรเขี่ยมาให้อ่านกัน)


4. หลายคนอาจจะเห็นไปแล้วว่าข้าพเจ้ากล่าวไว้ว่า คำขอโทษมักเบากว่าคำด่าเสมอ.......ข้าพเจ้ายืนยันคำเดิม เห็นได้ชัดว่า เมื่อทำผิดไปแล้ว ขอโทษมากสักขนาดไหน เรื่องที่คนแชร์มากที่สุดก็ยังเป็นเรื่องความผิดอยู่ดี ดังนั้นคงต้องระวังอะไรมากขึ้น

5. ข้าพเจ้าเสียใจแทนหลายๆคนที่ด่าเหมารวมวงโยฯทั้งวงการ และเสียดายแทนอีกหลายๆวงที่อาจเสียโอกาสไปเพราะคราวนี้ วงการวงโยฯเป็นวงการเล็กๆ ที่หาคนเข้าใจยาก แต่ถ้าเป็นไปได้ ข้าพเจ้าอยากขอว่า อย่าเหมารวมทั้งวงการเลย

6. ขอบคุณดราม่าครั้งนี้ที่ทำให้ข้าพเจ้าเห็นว่ามีผู้คนเอ็นดูข้าพเจ้ามากเพียงใด หลายคนที่ข้าพเจ้าคิดว่าเขาเกลียดขี้หน้าข้าพเจ้ามานับสิบปียังออกมาปกป้องข้าพเจ้า ขอบคุณละกันนะ

7. ขอขอบคุณดราม่าครั้งนี้เช่นกันที่ทำให้ข้าพเจ้าได้คุยกะเพื่อนๆที่ห่างหายเยอะมาก ไม่ว่าจะ 1ปี 2ปี 3ปี 4ปี หรือมากกว่านั้น ........ทักกันมาหมดเลย อยากรู้ข่าววงใน ขอประกาศไว้ ณ ที่นี้ ว่าข้าพเจ้าไม่มีข่าววงใน(ในวง)นั้น .....มีก็แต่คาดเดาได้จากวงการวงโยฯ ทั่วๆไป ประกอบการอ่านทางอินเตอร์เน็ตบ้าง พูดคุยกับคนในวงการ(ที่ติดต่อมาเม้าเช่นกัน) บ้าง ก็เท่านั้น

8. หวังว่าเรื่องนี้จะจบโดยเร็วและไม่บอบช้ำกับคนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์มากเกินไป และหวังว่าคนที่กระทำผิดใช้ผู้อื่นเป็นเครื่องมือ.....จะถูกลงโทษอย่างเหมาะสม

9. อีกประการที่ข้าพเจ้าอยากปกป้องตัวเองไว้ ณ ที่นี้ ......ข้าพเจ้าไม่ใช่คนดี (เห็นได้จากEntryอื่นๆในบล็อกนี้ ขอแอบโฆษณานิดนึง อย่าลืมลองไปอ่านดูนะคะ)ไม่ได้เขียนบล็อกนี้ขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองดูดี ข้าพเจ้าเป็นคนที่มี 2 ด้านเหมือนเช่นคนอื่น ข้าพเจ้าเขียนบล็อกนี้ขึ้นมาระบายความในใจ และข้อคิดที่ได้จากปรากฏการณ์ครั้งนี้เท่านั้นเอง

10. สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าคงได้ข้อคิดข้อใหญ่ๆที่ว่า ความหวังดีที่เขาไม่ได้ร้องขอ.......ไม่จำเป็นต้องเสนอ


หลังเขียนบล็อกนี้จบไม่รู้จะมีดราม่าซัดมาอีกระลอกไหม แต่นี่คือข้อความจากใจที่อยากเขียน



ขอบคุณค่ะ

เขียนไว้ ณ เวลา 1:33 น. ของวันที่ 3 เมษายน 2557
เหตุการณ์หลังจากนี้ไม่ได้นับรวมอยู่ในความรู้สึกที่ปรากฏในบล็อกนี้


ป.ล. ความในใจหลายท่านที่อ่านจบอาจจะเป็น... "ยาวไปไม่อ่าน"



3 ความคิดเห็น:

  1. ขั้นสายตา --> คั่นสายตา ขออภัยถ้าเป็นการเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนครับ

    ตอบลบ